“ข้อมูลคือทองคำใหม่” ปี 2567 จะเป็นอย่างไรบ้าง?
“Data Is The New Gold” เป็นวลีทองยอดนิยมในยุคธุรกิจออนไลน์ปัจจุบันที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูลจำนวนมหาศาล ข้อมูลไม่ใช่ทางเลือกในการทำธุรกิจอีกต่อไป แต่ข้อมูลเป็นทรัพยากรอันมีค่าที่สามารถช่วยปลดล็อกศักยภาพของธุรกิจของคุณให้ดียิ่งขึ้นในโลกออนไลน์ที่มีการแข่งขันสูงในปัจจุบัน
ข้อมูลหรือข้อมูลทางธุรกิจมีปริมาณมหาศาล ทั้งข้อมูลประชากรลูกค้า (ชื่อ หมายเลขโทรศัพท์ อีเมล ที่อยู่ อาชีพ ฯลฯ) หรือข้อมูลพฤติกรรม ความชอบ และความสนใจในเรื่องต่างๆ ของลูกค้า ข้อมูลทางธุรกิจ เช่น ข้อมูลผลิตภัณฑ์ ข้อมูลการขาย ข้อมูลพนักงาน ข้อมูลประสิทธิภาพ ข้อมูลทีมขาย หรือแม้แต่ข้อมูลคู่แข่ง เป็นต้น ล้วนเป็นข้อมูลที่สามารถนำไปใช้ให้เกิดประโยชน์ทางธุรกิจได้ เมื่อ “ข้อมูล” มีหลายมิติที่ทุกธุรกิจสามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้อย่างมหาศาล การมีฐานข้อมูลเพื่อจัดเก็บข้อมูลจำนวนมาก รวมถึงการมีระบบจัดเก็บฐานข้อมูลที่ดีก็มีความสำคัญพอๆ กับการรู้ว่าเราจะใช้ประโยชน์จากมันได้อย่างไร ข้อมูลหรือสารสนเทศเช่นกัน
ฐานข้อมูลคืออะไร?
“ฐานข้อมูลคือชุดของข้อมูลที่จัดระเบียบเพื่อให้สามารถเข้าถึงได้ ง่ายต่อการจัดการและอัปเดต ซึ่งรวมถึงข้อมูลเกี่ยวกับธุรกรรมการขายหรือการโต้ตอบกับลูกค้าเฉพาะราย”
เพื่ออธิบายให้ละเอียดยิ่งขึ้น “ฐานข้อมูล” คือกลุ่มของข้อมูลที่มีความสัมพันธ์กัน รวบรวมเข้าด้วยกันอย่างเป็นระบบ กลุ่มข้อมูลที่ประกอบเป็นฐานข้อมูลจะต้องเป็นไปตามวัตถุประสงค์การใช้งานเดียวกัน เช่น ฐานข้อมูลลูกค้า มีข้อมูลลูกค้าตั้งแต่ชื่อ หมายเลขโทรศัพท์ ที่อยู่ ช่องทางการซื้อ สินค้าที่ลูกค้าซื้อ โปรโมชั่นที่ลูกค้าสนใจ หรือแม้แต่ข้อมูลปัญหา ความต้องการของลูกค้าหารือกับพนักงานขาย เป็นต้น ทั้งหมดนี้ เป็นข้อมูลเกี่ยวกับธุรกิจของคุณ ฐานข้อมูลลูกค้า
ในบริษัทหรือองค์กรที่มีข้อมูลจำนวนมาก ย่อมมีความยุ่งยากในการจัดการข้อมูล ตามที่กล่าวไว้ข้างต้น ข้อมูลที่มีความสำคัญต่อธุรกิจมีหลายมิติ ทั้งข้อมูลลูกค้า (ซึ่งมีความสำคัญและมีคุณค่าอย่างมากต่อธุรกิจ) ข้อมูลการทำงานของพนักงาน จำนวนลูกค้า มาในแต่ละวันข้อมูลประสิทธิภาพช่องทางการขายหรือแม้แต่ข้อมูลประสิทธิภาพของการโฆษณาหรือแคมเปญการตลาด จึงมีระบบที่ช่วยให้บริษัทหรือองค์กรของคุณสามารถจัดเก็บข้อมูลจำนวนมากได้อย่างเป็นระบบ จะช่วยนำข้อมูลออกมาใช้งานได้สะดวกและทันเวลา ขจัดความยุ่งยากและความยุ่งยากในการใช้และจัดเก็บข้อมูลทั้งหมดนี้ รวมถึงการดูแลป้องกันการสูญเสียข้อมูลอันมีค่าของบริษัทอย่างมีประสิทธิภาพ
ฐานข้อมูล (Database) มีประโยชน์อย่างไร?
ลองนึกภาพบ้านที่เก็บของได้มากมายแต่กระจัดกระจายไปทั่วบ้านแบบไม่เป็นระเบียบ การหยิบเครื่องครัวหรือเครื่องใช้ต่างๆ ต้องใช้เวลาค้นหาไปทั่วบ้าน ซึ่งต่างจากบ้านอื่นที่เก็บของให้เรียบร้อยและเป็นระเบียบ เป็นสัดส่วนที่ใช้งานง่ายกว่าและเร็วกว่า นั่นคือความสำคัญของการสร้างฐานข้อมูลสำหรับธุรกิจของคุณ โดยเฉพาะสำหรับธุรกิจที่น่าดึงดูดอย่าง ทางเข้า kapook888 ที่มอบอัตราพนันบอลยอดเยี่ยมให้แก่ทุกคนที่เข้าเยี่ยมชม!
ฐานข้อมูลหรือฐานข้อมูลที่ดีจะช่วยจัดระเบียบข้อมูลของเรา มีโครงสร้างที่ดีสามารถใช้วิเคราะห์หรือสรุปผลทั้งในด้านธุรกิจหรือการดำเนินงานได้ ประโยชน์ของการมีฐานข้อมูลแบ่งออกเป็น 3 มิติ คือ
ประโยชน์ของฐานข้อมูลสำหรับพนักงาน
ในโครงสร้างระบบจัดเก็บฐานข้อมูลระดับปฏิบัติการมีทั้งผู้ใช้และผู้ดูแลข้อมูล ประโยชน์ของการมีฐานข้อมูลสามารถช่วยได้ในระดับปฏิบัติการ ดังนี้:
- สะดวก ง่าย และรวดเร็วในการใช้ข้อมูล เนื่องจากข้อมูลถูกจัดเก็บไว้ในหลายแห่งโดยไม่มีการจัดหมวดหมู่ หรือแม้แต่ข้อมูลประเภทเดียวกันก็กระจายออกไปหลายแห่งทำให้เกิดความซ้ำซ้อน การดึงข้อมูลแต่ละครั้งใช้เวลานานเกินความจำเป็น ดังนั้นข้อมูลจึงถูกรวบรวมและจัดเก็บไว้ในฐานข้อมูล จะช่วยลดปัญหาความซ้ำซ้อนของข้อมูล นอกจากนี้ยังช่วยลดภาระและทำให้ผู้ใช้ทำงานได้ง่ายขึ้น
- การใช้ข้อมูลมีความถูกต้อง ในกรณีที่ระบบฐานข้อมูลของคุณมีข้อมูลหลากหลายจำนวนมาก ให้จัดระบบฐานข้อมูลให้เป็นระเบียบ การแยกข้อมูลออกเป็นหมวดหมู่ที่ชัดเจนจะช่วยให้ข้อมูลสัมพันธ์กัน ลดข้อผิดพลาดในข้อมูลเมื่อผู้คนสามารถใช้งานได้
- สามารถแบ่งปันข้อมูลได้ น่าจะเป็นเรื่องยากและใช้เวลานาน หากพนักงานจำเป็นต้องดึงข้อมูลมาแบ่งปันระหว่างแผนกหรือทีมงาน บางครั้งฉันก็มีภาระงาน การลาออก หรือแม้แต่ผู้ที่มีข้อมูลต่างๆ ออกจากองค์กรหรือบริษัทของคุณ การมีระบบฐานข้อมูลของบริษัทจะจัดเก็บข้อมูลสำคัญต่างๆ ไว้ในศูนย์กลาง การแชร์ข้อมูลหรือส่งต่อข้อมูล อื่นๆ ในทีมจะสะดวกและง่ายขึ้น
ประโยชน์ของฐานข้อมูลสำหรับลูกค้า
ในองค์กรหรือบริษัทหลายแห่งโดยเฉพาะที่เน้นการบริการ การจดจำข้อมูลลูกค้า จะสร้างความประทับใจที่ดีต่อบริการของธุรกิจของคุณ รวมถึงการจดจำชื่อหรือสินค้าหรือบริการที่ลูกค้าเคยซื้อในอดีต ความต้องการ หรือปัญหาของลูกค้า และสามารถนำเสนอสิ่งที่ตรงตามความต้องการหรือตอบปัญหาของลูกค้าได้โดยตรง เป็นต้น
ประโยชน์ของฐานข้อมูลสำหรับธุรกิจ
ไม่จำเป็นต้องพูดถึงประโยชน์ของการใช้ข้อมูลมากนัก ปัจจุบันธุรกิจจำนวนมากเริ่มตระหนักถึงประโยชน์มหาศาลของการใช้ข้อมูลที่เก็บไว้ (รวมถึงข้อมูลลูกค้า ข้อมูลการขาย ข้อมูลผลงานของพนักงานในด้านต่างๆ) สามารถวิเคราะห์และวางแผนเพื่อปรับเปลี่ยนหรือพัฒนาธุรกิจและองค์กรให้ถูกเวลาและถูกเวลา นำไปสู่การเติบโตของธุรกิจในระยะยาว
นอกจากนี้ ข้อดีที่สำคัญอีกประการหนึ่งของการมีฐานข้อมูลในองค์กรหรือบริษัทก็คือ การป้องกันข้อมูลสูญหายและความปลอดภัยของข้อมูล บริษัทหลายแห่งทั่วโลกมีระบบฐานข้อมูลที่สามารถจำกัดการเข้าถึงข้อมูลของผู้ที่เกี่ยวข้องกับการใช้ข้อมูลนั้นได้
วิธีใช้ฐานข้อมูล
สำหรับธุรกิจ ข้อมูลสามารถนำไปใช้ได้หลายมิติ แต่สำหรับองค์กรหรือบริษัทที่ต้องการใช้ข้อมูลเพื่อขับเคลื่อนธุรกิจในมิติต่างๆ จะต้องมีข้อมูลจำนวนมากและมีความสามารถในการวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อการตัดสินใจทางธุรกิจที่แม่นยำ นอกจากนี้ ข้อมูลยังสามารถนำไปใช้วิเคราะห์และคาดการณ์สิ่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคตทั้งดีและไม่ดีสำหรับธุรกิจได้ ตัวอย่างของธุรกิจที่ประสบความสำเร็จในการใช้ข้อมูลและเป็นที่รู้จักไปทั่วโลกคือ Netflix บริการสตรีมมิ่งออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก Bloomberg รายงานผลประกอบการไตรมาสแรกของปี 2020 (ม.ค. – มี.ค.) แสดงให้เห็นว่ารายได้รวมของ Netflix เพิ่มขึ้น 27.6% และจำนวนสมาชิกเพิ่มขึ้น 15.77 ล้านรายเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2019 “มากกว่า 80% ของสิ่งที่ผู้คนรับชมมาจากคำแนะนำของเรา”
Todd Yellin รองประธานฝ่ายนวัตกรรมผลิตภัณฑ์ของ Netflix ทั้งนี้เนื่องจาก Netflix รวบรวมข้อมูลผู้ใช้จำนวนมากซึ่งไม่ใช่แค่ข้อมูลประชากร เช่น เพศ อายุ ที่อยู่อาศัย หรือเพียงแค่ความชอบเท่านั้น แต่ Netflix จะเก็บข้อมูลพฤติกรรมการดูคอนเทนต์ของแต่ละคนในแต่ละวัน ซึ่งแตกต่างกันแม้กระทั่งการกดปุ่ม Pause, Skip ในแต่ละคอนเทนต์ การใช้ข้อมูลจำนวนมากเพื่อวิเคราะห์ความชอบของแต่ละคนได้แม่นยำมากขึ้น ทำให้ Netflix สามารถขยายฐานผู้ใช้และรายได้เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว
เนื่องจากผลลัพธ์ของการใช้ข้อมูลผู้บริโภคเป็นตัวสร้างความสำเร็จให้กับธุรกิจจำนวนมาก การรวบรวมข้อมูลพฤติกรรม ความชอบ/ไม่ชอบที่ผู้บริโภคบางครั้งไม่ยินยอมหรือเก็บข้อมูลโดยสมัครใจ ทำให้ พ.ร.บ.คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Personal Data Protection Act) ถูกบังคับใช้ทางออนไลน์มากขึ้น ดังนั้นในช่วงปีที่ผ่านมา จึงส่งผลกระทบต่อธุรกิจจำนวนมากที่เลือกพึ่งพาแพลตฟอร์ม Third Party Data ที่รวบรวมข้อมูลผู้บริโภคให้ธุรกิจจำนวนมากใช้งานได้ง่าย เช่น Facebook Ads หรือ Google Ads ข้อดีของ Third Party Data ก็คือมีข้อมูลจำนวนมากให้ธุรกิจเลือกใช้ อย่างไรก็ตาม Readplanet ขอบอกว่าการมีระบบฐานข้อมูลลูกค้าเป็นของตัวเองสำหรับองค์กรหรือบริษัทของคุณหรือที่เรียกว่า First Party Data ถึงแม้จะต้องใช้ความพยายามในการวิเคราะห์และคัดเลือกข้อมูลด้วยตัวเอง แต่ผลลัพธ์ที่ได้นั้นมีประสิทธิภาพและแม่นยำกว่าอย่างแน่นอน