นาฬิกา Rolex รุ่นไหนน่าซื้อเก็งกำไร 2023 ?
-
ราคามือสองของนาฬิกาหรูแบรนด์ดังสัญชาติสวิสไม่ว่าจะเป็น Rolex, Patek Philippe และ Audemars Piguet โดยเฉลี่ยร่วงกว่า 31% ตั้งแต่จุดสูงสุดเมื่อเดือน มี.ค. 2022
-
จุดเด่นสำคัญ คือ Rolex จำกัดปริมาณการผลิตทำให้การตลาดที่วางแผนให้เป็นสัญลักษณ์แห่งความมั่งคั่งและความสำเร็จของชีวิตทำหน้าที่อย่างเต็มที่ ส่งผลให้ความต้องการแทบจะลดลงเลย ในปัจจุบันแทบเป็นไปไม่ได้ที่จะเดินเข้าในร้าน Rolex แล้วได้นาฬิกามือหนึ่งทันที
-
เมื่อนโยบายกลับทิศ เงินที่อัดฉีดเข้ามาถูกดึงออก ปริมาณเงินในระบบลดลง ในเวลาเดียวกับที่ราคานาฬิกาและตลาดคริปโตร่วง แต่ด้วยแรงเก็งกำไรเลยทำให้ผลกระทบกับราคานาฬิกาและตลาดคริปโตยังไม่จบสิ้น จึงสรุปได้ว่าเป็นผลจากปริมาณเงินลดลง กระแสเก็งกำไรหายไป และได้รับผลกระทบจากตลาดคริปโตพังบ้าง
“นาฬิกาหรู” สิ่งของยอดฮิตนับตั้งแต่รุ่นพ่อแม่ยาวมาถึงปัจจุบันความนิยมก็ยังไม่เสื่อมคลาย นับเป็นเวลากว่าปีแล้วที่มีข่าวราคาขายมือสองนาฬิกาแบรนด์ดังอย่าง นาฬิกา Rolex และ Patek Philippe รวมถึงแบรนด์ร่วงต่อเนื่อง อาจทำให้เกิดคำถามว่าหมดยุคนาฬิกาหรูแล้วหรือยัง?
พี่ทุยขอพาทุกคนไปรู้จักกับ Rolex นาฬิกาแบรนด์ดังจากสวิสกันหน่อย ทำไมถึงก้าวขึ้นมาครองใจมหาชนจนกลายเป็นสินทรัพย์รักษามูลค่า แล้วราคาร่วงแบบนี้ Rolex ยังน่าสนใจหรือไม่?
นาฬิกา Rolex, Patek Philippe ราคามือสองร่วงใกล้แตะระดับต่ำสุดในรอบ 2 ปี
ราคามือสองของนาฬิกาหรูแบรนด์ดังสัญชาติสวิสไม่ว่าจะเป็น Rolex, Patek Philippe และ Audemars Piguet โดยเฉลี่ยร่วงกว่า 31% ตั้งแต่จุดสูงสุดเมื่อเดือน มี.ค. 2022 ตลอดช่วง COVID-19 ระบาด ทุกคนต่างอยู่บ้านทำให้มีเงินเก็บเหลือมาก นาฬิกาหรูหลายโมเดลไม่เพียงพอต่อความต้องการ จึงเกิดแรงซื้อมหาศาลในตลาดมือสอง
เมื่อถึงจุดหนึ่งก็เต็มไปด้วยแรงเทขายโมเดลยอดฮิตเหล่านี้ที่เคยมีความต้องการสูงช่วงก่อนหน้านี้ เช่น Rolex Daytona, Patek Philippe Nautilus, Audemars Piguet Royal Oak ราคาจึงร่วงอย่างที่เห็น
ประวัติความเป็นมา นาฬิกา Rolex
แม้อุปสงค์ในนาฬิกาหรูจะลดลงในช่วงนี้ แต่ก็น่าสนใจว่าจากการเป็นนาฬิกาบอกเวลาธรรมดา ๆ ถึงกลายมาเป็นสินทรัพย์ที่ไว้ลงทุนได้ พี่ทุยเลยอยากจะเล่าผ่านประวัติศาสตร์ของนาฬิกา Rolex
ต้องบอกว่าแท้จริง Rolex เริ่มต้นที่ประเทศอังกฤษ Hans Wilsdorf และพี่เขย Alfred Davis ก่อตั้งแบรนด์นาฬิกาชื่อว่า “Wilsdorf and Davis” เน้นความแม่นยำสูง สวย และใช้งานได้ดี ผ่านมาเป็นเวลา 6 ปี ก็ถึงเวลาตั้งชื่อแบรนด์นาฬิกาสักที ชื่อ Rolex ซึ่งอ่านออกเสียงง่ายได้ทุกประเทศทุกภาษาไม่ผิดเพี้ยนแถมจำง่าย
ช่วงสงครามโลกครั้งที่ 1 Rolex ตัดสินใจย้ายไปประเทศสวิตเซอร์แลนด์ในปี 1919 เนื่องจากเป็นสินค้าฟุ่มเฟือยเลยโดนเก็บภาษีหนัก และเปลี่ยนชื่อเป็น Rolex Watch Company จนปัจจุบันใช้ชื่อ Rolex SA
จุดเปลี่ยนก็เกิดขึ้นในปี 1953
ปี 1953 เปิดตัวนาฬิกาดำน้ำรุ่นแรกที่ดำน้ำลึกได้ 100 เมตร ชื่อว่า Rolex Submariner ซึ่งรุ่นนี้ได้ปรากฎตัวบนจอภาพยนตร์ผ่าน James Bond ภาคแรกที่ชื่อ Dr.No และเชื่อว่าทุกคนต้องเคยได้ยินชื่อรุ่นนี้มาไม่มากก็น้อย จากนั้น 2 ปีถัดมา Rolex เปิดตัวนาฬิกา 2 timezone ชื่อว่า GMT-Master เพื่อให้เข้ากับยุคสมัยที่มีการเดินทางด้วยเครื่องบินมากขึ้น นับเป็นรุ่นยอดฮิตของเหล่านักบิน และในปี 1963 เปิดตัวรุ่น Rolex Cosmograph Daytona เฉลิมฉลองการเป็นนาฬิกาจับเวลาสนามแข่งรถ Daytona International Speedway ซึ่งยังคงเป็นหนึ่งในรุ่นยอดฮิตมาจนถึงทุกวันนี้
Quartz Crisis ส่งแบรนด์นาฬิกาสวิสเข้าตลาด Luxury
ต้องบอกก่อนว่า สมัยก่อนนาฬิกาจะเป็นระบบกลไก (ขึ้นลานด้วยมือ) แต่แล้วปี 1969 Seiko แบรนด์นาฬิกาจากญี่ปุ่นเปิดตัวนาฬิกา Quartz รุ่นแรกชื่อว่า Astron ซึ่งนาฬิกา Quartz ก็คือนาฬิกาใส่ถ่าน มีความแม่นยำไม่ต่างจากระบบกลไก Seiko ทำตลาดโดยไม่เน้นไปสู้ด้านฝีมือกับแบรนด์สวิส แต่เน้นการผลิตจำนวนมาก ราคาเข้าถึงง่าย
ผลกระทบจากการมาของนาฬิกา Quartz ทำให้ยอดขายนาฬิกาสวิสที่ราคาสูงกว่าระหว่างปี 1974-1983 ร่วงถึง 50% แต่ก็ได้นาย Nicolas George Hayek ผู้บริหารของ SMH บริษัทที่ต่อมาเปลี่ยนเป็น Swatch Group ในปัจจุบัน เข้ามากู้วิกฤติ จัดวางตำแหน่งการตลาดแบรนด์สวิสใหม่ในรูปทรงพีระมิดมีทั้งแบรนด์ที่เข้าถึงง่ายและแบรนด์หรูหรา Luxury ส่งให้หลายแบรนด์สวิสขยับตำแหน่งขึ้นไปสู่ตลาด Luxury กลายเป็นสินค้าหรูหราจนก้าวสู่การเป็นสินทรัพย์เก็บมูลค่า หนึ่งในนั้นก็มี Rolex อยู่ด้วย
ไขข้อสงสัยทำไม นาฬิกา Rolex ถึงกลายเป็นสินทรัพย์รักษามูลค่า
เริ่มจากการขายงานฝีมืออันยอดเยี่ยมไม่ใช่งานผลิตเกรดโรงงานทั่วไป วัสดุคุณภาพสูง จากนั้นก็ทำการตลาดให้นาฬิกาแบรนด์ Rolex กลายเป็นสัญลักษณ์แห่งความมั่งคั่งและความสำเร็จของชีวิตด้วยการเป็นสปอนเซอร์เซเลป เช่น โรเจอร์ เฟเดอเรอร์ และงานอีเว้นท์สำคัญ เช่น เทนนิส US Open, Wimbledon และการแข่งขันรถ Formula 1
จุดเด่นสำคัญ คือ Rolex จำกัดปริมาณการผลิตทำให้การตลาดที่วางแผนให้เป็นสัญลักษณ์แห่งความมั่งคั่งและความสำเร็จของชีวิตทำหน้าที่อย่างเต็มที่ ส่งผลให้ความต้องการแทบจะลดลงเลย ในปัจจุบันแทบเป็นไปไม่ได้ที่จะเดินเข้าในร้าน Rolex แล้วได้นาฬิกามือหนึ่งทันที
เมื่อเป็นเช่นนั้นความต้องการก็แห่เข้าตลาดมือสอง ราคา Rolex เลยเพิ่มขึ้น กลายเป็นกลไกรักษามูลค่าแบรนด์และทำให้นาฬิกา Rolex กลายเป็นสินทรัพย์รักษามูลค่าทันที
แต่ตลอด 2-3 ปีที่ผ่านมา ราคานาฬิกามือสอง Rolex ปรับตัวขึ้นอย่างรวดเร็วท่ามกลางความต้องการพุ่งพรวด แต่แล้วราคาก็ร่วงตั้งแต่เดือน มี.ค. 2022 กว่า 30% คำถามคือเกิดจากอะไร?
เหตุผลที่ราคานาฬิการ่วงเกี่ยวกับตลาดคริปโตพังหรือไม่?
จริง ๆ แล้วต้องบอกว่า เป็นผลจากการปิดเมืองที่ทำให้ผู้คนมีเงินเก็บมากขึ้น ประกอบกับธนาคารกลางทั่วโลกแห่พิมพ์เงินพร้อมรัฐบาลอัดฉีดเงินเข้ากระเป๋าประชาชน เมื่อเงินเหล่านั้นไม่มีที่ไปก็เลยไหลเข้านาฬิกาแบรนด์หรู (เช่นเดียวกับตลาดหุ้นและคริปโต) เมื่อราคาขึ้นก็กลายเป็นกระแสเก็งกำไรไปโดยปริยาย
เมื่อนโยบายกลับทิศ เงินที่อัดฉีดเข้ามาถูกดึงออก ปริมาณเงินในระบบลดลง ในเวลาเดียวกับที่ราคานาฬิกาและตลาดคริปโตร่วง แต่ด้วยแรงเก็งกำไรเลยทำให้ผลกระทบกับราคานาฬิกาและตลาดคริปโตยังไม่จบสิ้น จึงสรุปได้ว่าเป็นผลจากปริมาณเงินลดลง กระแสเก็งกำไรหายไป และได้รับผลกระทบจากตลาดคริปโตพังบ้าง
ถ้ามีเงินน่าสนใจหรือไม่ แล้วรุ่นไหนที่น่าสนใจ?
พี่ทุยขอบอกก่อนว่า ต้องเริ่มจากความชอบ อย่าเข้ามาเพราะการเก็งกำไร แต่จากการตลาด การวางตำแหน่งแบรนด์ ยังไงก็มีความต้องการคงที่ ซึ่งถ้าสนใจจากความชอบพี่ทุยมีแนะนำรุ่นต่อไปนี้
รุ่นยอดฮิตที่สุดของ Rolex ปัจจุบันดำน้ำลึก 300 เมตร ไม่ว่าใครก็ต้องเคยผ่านตาเคยได้ยิน ราคามือสองจากเวปไซต์ Chrono24 อยู่ที่ 15,393 ดอลลาร์ (หรือ 537,677.49 บาท) ส่วนราคามือหนึ่งอยู่ที่ 10,740 ดอลลาร์ (หรือ 375,148.20 บาท)
นาฬิกาหรูเทคโนโลยี 2 timezone ขอบเรือนแบ่งเป็น 2 สี ดำ-น้ำเงิน (Batman) ราคามือสองจากเวปไซต์ Chrono24 อยู่ที่ 19,164 ดอลลาร์ (หรือ 669,398.52 บาท) ส่วนราคามือหนึ่งอยู่ที่ 11,180 ดอลลาร์ (หรือ 390,517.40 บาท) เฉลิมฉลองการเป็นนาฬิกาจับเวลาสนามแข่งรถ Daytona International Speedway เน้นฟังก์ชั่นการจับเวลาที่แม่นยำ ราคามือสองจากเวปไซต์ Chrono24 อยู่ที่ 35,689 ดอลลาร์ (หรือ 1,246,616.77 บาท) ส่วนราคามือหนึ่งอยู่ที่ 15,783 ดอลลาร์ (หรือ 551,300.19 บาท)
อย่างไรก็ตามเหมือนกับสินทรัพย์อื่น ๆ ก่อนลงทุนอย่าลืมบริหารความเสี่ยงดี ๆ อย่าเทจนหมดหน้าตัก จนไม่เหลือเงินให้หมุนในยามเกิดเหตุไม่คาดฝันขึ้นมา