เทคนิคการเขียน แคปชั่นขายของ แบบขยี้เน้นไปที่ปัญหาแบบจู่โจม

Problem – คือการหยิบยกปัญหาขึ้นมาพูดก่อน
Agitate – เน้นย้ำหรือขยี้ให้ผู้อ่านรู้สึกว่าปัญหานี้มันใหญ่
Solve – ชี้ให้เห็นว่าสินค้าที่เราต้องการจะขายจะช่วยแก้ปัญหานี้ได้ยังไง

ซึ่งเทคนิคแบบนี้นั้น ในกลุ่มคนเขียนบล็อกยังเรียกว่ามันถือเป็นกุญแจของการเขียนแคปชั่นอีกด้วย เพราะเป็นการหยิบยกปัญหาขึ้นมาพูดก่อน แล้วตบท้ายให้เห็นว่าแบรนด์ของเราจะช่วยเค้าได้

เทคนิคแคปชั่นขายของด้วยหลัก 4 C’s

Clear – ชัดเจน
Concise – กระชับ ไม่เวิ่นเว้อ
Compelling – กระตุ้นความสนใจได้
Credible – น่าเชื่อถือ

นับเป็นอีกหนึ่งเทคนิคในดวงใจใครหลายคน เพราะถือเป็นการโฟกัสไปที่การเขียนแคปชั่นให้ออกมาชัดเจนด้วยความกระชับ ตรงไปตรงมาแบบอ่านแล้วน่าเชื่อถือ อีกทั้งก็ยังต้องกระตุ้นความสนใจของลูกค้าได้ด้วยเช่นกัน

การเขียนแคปชั่นขายของ แบบ 4 U’s

Useful – ต้องมีประโยชน์
Urgent – ให้ความรู้สึกเร่งรีบ
Unique – มีความเป็นเอกลักษณ์ ไม่ซ้ำใคร
Ultra-specific – และต้องตรงประเด็น

หากใครกำลังมองหาแคปชั่นดีๆ ไว้ลงในสื่อโซเชียลโดยเฉพาะ Twitter ล่ะก็ เทคนิคนี้แหละได้ผลแน่นอน เพราะเหมาะกับพื้นที่แคปชั่นที่มีขนาดเล็กและถูกจำกัดความ เช่น การเขียน แคปชั่นชายของใน Twitter

แคปชั่นขายของ ด้วยรูปแบบเน้นชักจูงและโน้มน้าว (Attention – Interest – Desire – Action) AIDA

Attention – ดึงดูดให้ลูกค้าเกิดความสนใจ
Interest – ชักจูงให้ลูกค้าสนใจในแคปชั่นของเรา
Desire – ทำยังไงก็ได้ให้ลูกค้าเกิดความต้องการ อยากจะซื้อของของเรา
Action – ชี้ชัดให้เห็นถึงเหตุผลของสิ่งที่เราต้องการจะขาย

เทคนิคนี้จะเหมาะเป็นพิเศษสำหรับการทำโฆษณา ไม่ว่าจะเป็นทางโทรทัศน์ วิทยุ หรือทางอีเมลก็ตาม โดยต้องเล่นคำและคิดหารูปแบบให้ลูกค้าเกิดความสนใจได้ด้วยเวลาอันสั้น

การเขียนแคปชั่นขายของด้วย 5 ข้ออ้างยอดฮิต

  1. ฉันไม่มีเวลา
  2. ฉันไม่มีเงิน
  3. ไม่มีประโยชน์สำหรับฉัน
  4. ฉันไม่เชื่อ
  5. ฉันไม่ต้องการ

เพราะลูกค้าส่วนใหญ่ มักมีข้ออ้างของการไม่กดอ่าน กดคลิก หรือแชร์ ด้วย 5 ประโยคยอดฮิตเหล่านี้ ซึ่งถ้าหากแคปชั่นที่เราต้องการจะเขียน สามารถพังทลายข้ออ้างทั้ง 5 ข้อเหล่านี้ของลูกค้าออกไปได้ล่ะก็ เราก็มาถูกทางแล้วครับ

รูปแบบการเขียนแคปชั่นขายของแบบทำให้ลูกค้าเห็นภาพตาม (Picture – Promise – Prove – Push)

  • Picture ทำให้ผู้ซื้อเกิดภาพก่อนว่า ซื้อสินค้าของเราไปแล้วจะมีชีวิตดีขึ้นยังไง
  • Promise ให้คำมั่นสัญญาว่าสิ่งที่เราขายนั้น จะช่วยให้ลูกค้ามีชีวิตดีขึ้นจริงๆ หรือช่วยแก้ปัญหาได้จริง
  • Prove ชี้ให้เห็นว่า สินค้าของเรามีดียังไง
  • Push ทำยังไงก็ได้ให้ลูกค้าเชื่อว่าของเรานั้นดีจริง กระตุ้นให้เกิดความสนใจอยากจะซื้อ

ซึ่ง 4P ถือเป็นอีกหนึ่งหัวใจสำหรับการตลาด โดยการเปิดโอกาสให้ลูกค้าได้เห็นภาพถึงสินค้าที่เราต้องการจะขายก่อน และตบท้ายด้วยการสร้างความมั่นใจให้ลูกค้ารู้สึกว่า อยากจะหอบเงินมาให้สินค้าของเรา

การเขียนแคปชั่นขายของแบบทิ้งท้ายให้คนอยากอ่านต่อ

ถือเป็นการเขียนแคปชั่นในรูปแบบที่ยอดนิยมอีกหนึ่งเทคนิค นั่นก็คือ การเขียนแบบเป็นเรื่องราวตอนๆ หรือ Open Loops ทำให้คนรู้สึกว่าอยากอ่านต่อ หรืออยากติดตามเรื่องราวของเราต่อ นับเป็นกลยุทธ์ทางการตลาดอย่างหนึ่ง

ปแบบการเขียนแคปชั่นขายของที่มีการเปิดประเด็นด้วยยอดสถิติ ทำให้รู้สึกอยากอ่านต่อ

  • สื่อความด้วยความจริง
  • กระชับ เข้าใจง่าย
  • ตรงไปตรงมา
  • ไม่ใช้คำพูดเวิ่นเว้อจนเกินไป
  • ใช้คำพูดที่กระตุ้นให้ลูกค้าเกิดความสนใจ

ซึ่งรูปแบบการเขียนของวิธีนี้ จะออกมาในเชิง

  • สั้นๆ ง่ายๆ ไม่เวิ่นเว้อ
  • อย่านำโควทที่ไม่เกี่ยวข้องมาอ้างอิงเด็ดขาด
  • ยกตัวอย่างเรื่องจริงในส่วนกลางๆ เรื่อง
  • แปะลิงก์อ้างอิง

ขอบคุณที่มา : https://kingcopywriting.com/how-to-write-captions-that-sell/

Related Posts

เครื่องสแกนลายนิ้วมือ มีประโยชน์อย่างไร
ปัจจุบันบริษัทและหน่วยงานจำนวนมาก หันมาใช้เครื่องสแกนลายนิ้วมือ เนื่องจากมีประโยชน์มากมายหลายประการ ดังนี้ เครื่องสแกนลายนิ้วมือมีความแม่นยำ รัดกุม รวดเร็ว โรงงานหรือบริษัทบางแห่งมีพนักงานจำนวนมากที่ต้องเข้างานพร้อมกัน การใช้เครื่องสแกนลายนิ้วมือจะช่วยให้การพิมพ์ลายนิ้วมือเข้า-ออกงานนั้นเป็นไปอย่างรวดเร็ว แน่นอนมากกว่าระบบการตอกบัตรในอดีตที่ต้องใช้เวลานานมาก ทำให้เสียเวลาในการทำงานลงไป...
Read more
9 อย่างที่ควรมีก่อนเริ่มขายของออนไลน์ 
9 อย่างที่ควรมีก่อนเริ่มขายของออนไลน์ ทุกวันนี้มีผู้คนมากมายสนใจอยากเริ่มทำธุรกิจออนไลน์หรือ ขายของออนไลน์ เพราะดูเป็นสิ่งที่ทำได้ง่าย แถมไม่ต้องลงทุนอะไรมากนักแต่แท้จริงแล้วการเปิดร้านขายของออนไลน์หรือทำธุรกิจออนไลน์ให้ประสบความสำเร็จได้นั้น จำเป็นต้องมีการเตรียมตัวที่ดี เพราะไม่อย่างนั้นแล้วอาจจะขาดทุน จนต้องล้มเลิกไปก็ได้ วันนี้ พิมเพลินเลยอยากขอนำ 9...
Read more
การเลือกซื้อและเรื่องควรระวังของเครื่องปั๊มลม
การเลือกซื้อเครื่องปั๊มลม (air compressor) 1. หัวปั๊มลมควรถูกผลิตด้วยวัตถุดิบคุณภาพสูง คุณภาพดีและมีความหนา ความยืนยงต่ออุณหภูมิและการใช้งานอย่างสาหัส2. มอเตอร์ไฟฟ้าศักยภาพสูง ศักยทำงานได้ที่แรงบิดสูงและอดออมพลังงาน มีระบบการปกป้องความชุ่มชื้นและฝุ่นละออง มีคงทนต่อการใช้งานกลางแจ้งและในสภาวะฝุ่นเยอะเป็นพิเศษ3....
Read more
error: Content is protected !!