8 ขั้นตอนการทำการตลาดออนไลน์

ในหัวข้อก่อนหน้านี้ เราได้อธิบายความหมายของการตลาดออนไลน์ หรือ Online Marketing พร้อมทั้งแนะนำให้คุณได้รู้จักกับช่องทางการโฆษณาออนไลน์ที่นิยมใช้ไปพอสมควรแล้ว ลำดับต่อไป ถึงเวลาที่คุณจะลงมือวางแผนการตลาดออนไลน์ และกำหนดเป้าหมายการขายของออนไลน์ด้วยตนเอง ผ่าน 8 ขั้นตอนการทำการตลาดออนไลน์ ดังต่อไปนี้

 

1. กำหนดเป้าหมายให้ชัดเจนตั้งแต่เริ่ม

 

เมื่อคุณมีความคิดที่จะเริ่มต้นทำการตลาดออนไลน์ คุณต้องกำหนดเป้าหมายของแผนการตลาดออนไลน์ในแคมเปญนี้ให้ชัดเจน เพื่อให้ทีมสามารถสร้างกลยุทธ์ที่สอดคล้องกับเป้าหมายได้ดี โดยที่ไม่หลุดกรอบไปตั้งแต่เริ่ม อาทิ หากต้องการเพิ่มการรับรู้แบรนด์ ก็อาจจะต้องสร้างคอนเทนต์ที่เน้นให้เห็น Brand Identity บน Social Media เพื่อเข้าถึงผู้ชมใหม่ ๆ ให้มากขึ้น หรือหากต้องการเก็บข้อมูลลูกค้า ไปพร้อม ๆ กับการโปรโมตแคมเปญ อาจทำคอนเทนต์สำหรับยิงโฆษณาแบบ Lead Generation เป็นต้น

 

2. ระบุกลุ่มเป้าหมายของแบรนด์

3. คำนวณการใช้งบประมาณสำหรับแต่ละช่องทาง

แม้ว่าจุดเริ่มต้นของการทำธุรกิจดิจิทัลบนสื่อสังคมออนไลน์ คือการออกแบบชิ้นงาน และอัปโหลดลงไปบนแพลตฟอร์มต่าง ๆ ได้ทันที โดยไม่ต้องเสียเงินก้อนโตก็จริง แต่หากอยากเอาชนะคู่แข่งในตลาดออนไลน์ที่มีอยู่จำนวนมาก ก็จำเป็นจะต้อง “เสียเงินซื้อโฆษณา”เพื่อเข้าถึงลูกค้าให้มากขึ้นกว่าเดิม ทั้งนี้ งบประมาณที่ใช้ในแต่ละช่องทางย่อมแตกต่างกันออกไป โดยแบ่งสัดส่วนตามความสำคัญของวัตถุประสงค์ในด้านการตลาดออนไลน์ เช่น ใช้โฆษณาบน Facebook เพื่อสร้างการรับรู้เป็นหลัก ส่วนช่องทางอื่น ๆ เป็นรอง ก็อาจแบ่งสรรปันส่วนให้ช่องทางนี้มีงบสูงสุดตามความเหมาะสม

>> Tips: การลงโฆษณา Facebook อย่างมืออาชีพ เราสามารถจัดการและควบคุมทั้งหมดผ่าน Facebook Business ที่เป็นเหมือนตัวจัดการโฆษณา Facebook ที่จะสามารถแก้ไข, ปรับเปลี่ยน รวมทั้งบอกผลลัพธ์ให้เรานำไปวิเคราะห์ต่อเนื่องได้อย่างครบถ้วน และต้องไม่ลืมว่า การยิงแอดโฆษณาผ่าน Facebook Business แตกต่างกับการ Boost Post อย่างสิ้นเชิง

4. สร้างสมดุลการตลาดออนไลน์ที่ดีระหว่างแบบฟรีและเสียเงิน

ดังที่เราได้กล่าวไปในขั้นตอนก่อนหน้านี้ ว่าการตลาดออนไลน์มีทั้งแบบฟรีและเสียเงิน ซึ่งแน่นอนเราจะเอนเอียงไปทางใดทางหนึ่งแบบ 100% เลยไม่ได้ ดังนั้น เราควรจะต้องสร้างสมดุลที่สม่ำเสมอระหว่าง 2 รูปแบบด้วยกัน เช่น ในการวางแผนการขายออนไลน์ คุณอาจสร้างคอนเทนต์ขึ้นมา 2 รูปแบบ โดยรูปแบบแรกเป็นคอนเทนต์เน้นขาย เน้นสื่อสารโปรโมชันแบบตรงไปตรงมา แล้วยิงโฆษณาเพื่อถึงกลุ่มเป้าหมายโดยตรง และปิดการขายให้เร็วที่สุด ส่วนอีกรูปแบบ อาจเป็นคอนเทนต์ที่มีประโยชน์ สำหรับโพสต์ลงบนช่องทางต่าง ๆ โดยไม่ยิงโฆษณา เพื่อสร้างความเชื่อมั่น และสร้างฐานผู้ติดตาม เป็นต้น

>> Tips: หากเราสามารถสร้างคอนเทนต์ที่มีประโยชน์ต่อลูกค้าได้จริง และทำมันอย่างสม่ำเสมอ มีโอกาสอย่างมากที่เราจะสามารถดึงดูดลูกค้าให้เข้าหาได้เรื่อย ๆ ตามแบบฉบับ Inbound Marketing

5. สร้างเนื้อหาที่น่าดึงดูด

หลังจากที่เรารู้จักกลุ่มเป้าหมายดีประมาณหนึ่งแล้ว การเริ่มต้นสร้างคอนเทนต์เพื่อการตลาดออนไลน์ ให้สามารถตอบโจทย์ความต้องการได้มากที่สุด ย่อมได้ผลลัพธ์เป็นคอนเทนต์คุณภาพที่สามารถดึงดูดให้ผู้คนหยุดดู หยุดอ่าน หรือคลิกเข้าร่วมแคมเปญของเราอย่างมีประสิทธิภาพ

6. เพิ่มประสิทธิภาพเนื้อหาให้สามารถแสดงผลได้ดีบนอุปกรณ์พกพา

สิ่งที่ทำให้ขั้นตอนนี้สำคัญสำหรับการตลาดออนไลน์ คือการที่ปัจจุบันแพลตฟอร์มต่าง ๆ มักจัดอันดับคุณภาพคอนเทนต์และเว็บไซต์ โดยเพิ่มการพิจารณาเรื่องการแสดงผลบนอุปกรณ์เคลื่อนที่ (Mobile Friendly) เข้าไปด้วย นอกจากนี้ เมื่อคิดถึงพฤติกรรมการใช้งานของลูกค้า ที่เน้นใช้งานบนสมาร์ทโฟนหรือแท็บเล็ตเป็นหลัก การจัดวางเนื้อหา หรือปรับปรุง UI ให้รองรับการทำงานบนอุปกรณ์พกพา ก็จะยิ่งเพิ่มประสิทธิภาพในการทำการตลาดออนไลน์ มากขึ้น

 

7. ทำ Keyword Research สำหรับ SEO

การทำ Keyword Research เพื่อกลยุทธ์ SEO คือ การทำการตลาดออนไลน์ที่เราจะช่วยเสริมประสิทธิภาพการค้นหา ให้ลูกค้ามีโอกาสพบเจอคอนเทนต์ หรือเจอแบรนด์ของเราง่ายขึ้น ผ่านการใช้งาน Keyword ต่าง ๆ โดยมีความเข้าใจอย่างแท้จริง เพราะถ้าเราวิเคราะห์ Keyword อย่างรอบคอบ เราจะนำเสนอคอนเทนต์ที่ตอบโจทย์ต่อการค้นหา สร้างอันดับที่ดีบน Search Engine จนเรียกลูกค้าให้เข้าชมได้เป็นจำนวนมาก

8. วิเคราะห์ผลลัพธ์ที่ได้และพัฒนาอย่างสม่ำเสมอ

การจะทําการตลาดออนไลน์ให้ได้ผล นอกจากจะต้องเข้าใจว่าการตลาดออนไลน์มีองค์ประกอบอะไรบ้าง และการสื่อสารการตลาดออนไลน์ต้องทำอย่างไรแล้ว ยังต้องคอยกลับมาเก็บ Data Report หลังการทำมาร์เก็ตติ้งออนไลน์ เพื่อดูว่าแคมเปญในแต่ละครั้ง ให้ผลลัพธ์ต่อแบรนด์อย่างไรบ้าง มีการโต้ตอบของลูกค้าไปในทิศทางไหน จากนั้นเราต้องนำมาวิเคราะห์ เพื่อเตรียมแผนการตลาดออนไลน์ครั้งถัดไป ให้มีคุณภาพมากกว่าครั้งที่ผ่านมา

 

ที่มา www.thedigitaltips.com

Related Posts

สิ่งที่ต้องพิจารณาก่อนซื้อปั๊มลม
การจะตัดสินใจซื้อปั๊มลม (air compressor) หรือเครื่องมือลมนั้น มีสิ่งที่ต้องคำนึงถึงเพื่อประกอบการตัดสินใจดังนี้ ประการแรกที่ต้องคำนึงถึงคือ เรื่องของแรงดันสูงสุด (max working pressure) ที่ต้องการใช้งาน...
Read more
ปั๊มลมหรือเครื่องอัดอากาศ
ปั๊มลมหรือเครื่องอัดอากาศ (Air Compressor Pump) เป็นเครื่องกำเนิดแรงดันลม โดยใช้ไฟฟ้าขับเคลื่อนมอเตอร์ให้หมุนลูกสูบภายในอัดแรงดันลมเข้าถังพักลมหรืออุปกรณ์โดยมีตัวกั้นลมไม่ให้ย้อนกลับเข้าลูกสูบหรือ Check Valve เป็นตัวปิดไม่ให้ลมไหลย้อนกลับและลมจะถูกเพิ่มกำลังอัดเข้าไปเรื่อยๆ จนได้แรงดันลมที่ต้องการเพื่อนำไปใช้ในระบบต่อไป ปั๊มลมจะประกอบด้วยอุปกรณ์หลักๆ...
Read more
แหล่งเงินทุนระยะสั้นดีกว่าแหล่งเงินทุนระยะยาวจริงหรือ?
แหล่งเงินทุนระยะสั้น (เงินทุนหมุนเวียนในระยะสั้น) จะดีกว่าแหล่งเงินทุนระยะยาว ก็ต่อเมื่อผู้ประกอบการใช้แหล่งเงินทุนระยะสั้นกับค่าใช้จ่ายถูกประเภท แหล่งเงินทุนระยะสั้น ถูกออกแบบมาให้เหมาะสำหรับการใช้เพื่อหมุนเวียนในกิจการ วัตถุประสงค์ก็เพื่อการใช้จ่ายในช่วงระยะเวลาสั้นๆ มักเป็นเงินจำนวนไม่ใหญ่มาก กิจการสามารถจ่ายคืนเงินได้ภายในระยะเวลาสั้นๆ เช่น กิจการต้องการใช้เงินทุนระยะสั้นในการ...
Read more
error: Content is protected !!