แนะนำ 5 ธุรกิจออนไลน์
แนะนำ 5 ธุรกิจออนไลน์ ลงทุนต่ำ เริ่มทำได้เลยทันที!
แม้แนวโน้มพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไปตามสถานการณ์ในปัจจุบัน และการใช้อินเทอร์เน็ตของคนไทยจากผลสำรวจใน 10 ปีที่ผ่านมาเพิ่มขึ้นถึง 150% และปีนี้คนไทยกว่า 94% เป็นเจ้าของสมาร์ทโฟนนั่นแสดงให้เห็นว่าคนไทยเข้าสู่โลกออนไลน์กันอย่างเต็มตัว รวมทั้งการพัฒนาของเทคโนโลยีต่างๆเป็นปัจจัยสำคัญในการเปลี่ยนแปลงทั้งพฤติกรรมของการช้อปออนไลน์ที่เพิ่มขึ้น รวมทั้งธุรกิจก็เช่นกันต่างปรับหรือเพิ่มช่องทางขายบนออนไลน์เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคในยุคนี้ อันก่อให้เกิดการแข่งขันที่รุนแรงสูงขึ้นตามมา จากข้อมูลธุรกิจที่ผู้คนให้ความสนใจที่จะลงทุนคงหนีไม่พ้นธุรกิจออนไลน์สำหรับคนที่เริ่มอยากลงทุนทำธุรกิจออนไลน์เป็นของตนเองในช่วงนี้ รวมทั้งมือใหม่อยากทำธุรกิจมีเงินลงทุนไม่มาก 5 ธุรกิจที่ไพรซ์ซ่าอยากแนะนำนี้น่าจะสามารถช่วยให้คุณประกอบการตัดสินใจได้เพระาเป็นธุรกิจออนไลน์ที่ลงทุนต่ำ หรืออาจไม่ต้องลงทุนเพียงลงแรงเท่านั้น และสามารถทำได้หลากหลายช่องทาง
1) Dropshipping
ธุรกิจออนไลน์ ไม่ต้องลงทุนสต็อกสินค้า
เป็นเจ้าของธุรกิจออนไลน์ที่ใช้เงินลงทุนต่ำ ไม่ต้องสต็อกสินค้าตัดขั้นตอนการจัดเก็บและขนส่งสินค้า ความเสี่ยงต่ำ
สามารถขายสินค้าได้หลากหลาย และธุรกิจของคุณก็มีค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานต่ำมากอีกด้วย ขั้นตอนในการทำ Dropship อันดับแรกคือหาสินค้าหรือผู้บริการที่มีความเชี่ยวชาญพร้อมให้เรานำสินค้ามาเป็นตัวกลางในการขายอย่างเช่น จากนั้นทำการติดต่อเป็นตัวแทนการขายสินค้า ซึ่งการขายก็ง่ายดายเพียงเซฟรูปภาพสินค้ารวมทั้งรายละเอียดสินค้า โดยช่องทางในการขายส่วนใหญ่จะเป็นบน Marketplace เช่น Lazada, Shopee และสามารถขายกับต่างประเทศด้วยได้เช่น Amazon หรือ eBay อีกช่องทางคือ Social Media ก็สามารถนำไปลงขายได้เช่นกัน สามารถทำการตลาดเพื่อเข้าถึงลูกค้าและเพิ่มยอดขายสินค้าให้มากขึ้น
2) Affiliate Marketing
นายหน้าธุรกิจออนไลน์ ช่วยพาร์ทเนอร์ขาย
ไม่ต้องลงทุน เพียงติดลิงค์บนบล็อก เว็บไซต์หรือ Social Media ของคุณ ได้ค่าตอบแทนเป็นเปอร์เซ็นของค่าคอมมิชชั่น
การทำ Affiliate Marketing ในเบื้องต้นคือควรเลือกตลาดที่เหมาะสมสำหรับธุรกิจ เมื่อศึกษาตลาดแล้ว ขั้นต่อไปคือการหาคู่ค้าทางธุรกิจที่ขายสินค้ากับตลาดเดียวกัน สำหรับในไทยยกตัวอย่างเช่น Lazada และ Priceza Affiliate และเรายังสามารถทำ Affiliate Marketing ได้ทั้งบนเว็บไซต์ บล็อก รวมทั้ง Social Media โดยบริษัทที่เราทำ Affiliate Marketing จะให้ลิงค์เฉพาะมาให้เรานำไปติดหรือแนบลิงค์ เมื่อลูกค้าคลิกผ่านลิงก์นั้นๆ ก็จะนำลูกค้าเข้าไปยังเว็บไซต์และเข้าสู่ขั้นตอนการสั่งซื้อสินค้า
หลังจากนั้นระบบจากเว็บไซต์นั้นๆก็จะทำการเก็บข้อมูล และให้ค่าตอบแทนเป็นเปอร์เซนต์ค่าคอมมิชชั่น ซึ่งค่าคอมมิชชั่นจะอยู่ประมาณ 5 ถึง 25 % หรืออาจจะมากถึง 50% ในส่วนค่าใช้จ่ายจะมีค่าการตลาดกับค่าโฆษณาคล้ายกับการทำ Dropshipping เพื่อเข้าถึงลูกค้าและเพิ่มยอดขายให้มากขึ้น
3) Blogging
สร้างรายได้ให้งานเขียน ไม่ต้องลงทุน
บล็อกสามาารถสร้างเป็นธุรกิจได้ โดยการออกแบบเนื้อหาที่เป็นประโยชน์สำหรับผู้อ่าน
.
หากเราเป็นผู้เชี่ยวด้านใดด้านหนึ่ง หรือสนใจเรื่องใดเป็นพิเศษ สามารถนำมาความชอบเฉพาะด้านรวมทั้งความรู้เฉาพะทางนั้นมาแบ่งปันและถ่ายทอดผ่านบล็อก ทั้งยังสร้างรายได้ได้อีกด้วย สามารถเลือกสร้างบล็อกแบบฟรีๆได้ที่ หรือจะจดทะเบียนทำเว็บไซต์บล็อกของตัวเองผ่าน WordPress ตรงนี้จะมีค่าใช้จ่ายเล็กน้อยปีละประมาณไม่กี่พันบาท
.
แม้เราจะมีอิสระในการผลิตเนื้อหา แต่ความท้าทายคือ ข้อจำกัดในการผลิตเนื้อหานั้นขึ้นอยู่กับความสามารถและแนวทางของบล็อกของเรา นอกจากนั้นเราต้องส่งมอบคอนเท้นต์ที่มีคุณค่าที่สามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้ตลอดเวลา คอนเท้นต์อีกประเภทที่ควรมีคือคอนเท้นต์ที่สร้างสรรค์และมีความสดใหม่ เมื่อมีคอนเท้นต์ที่มีคุณภาพแล้วความสม่ำเสมอในการโพสบทความก็จะช่วยให้เพิ่ม ranking หรือการจัดอันดับเว็บไซต์ของเราบน Google ด้วย ที่สำคัญที่สุดในการทำบล็อกคือเราต้องสื่อสารด้วยความจริงใจ ไม่ควรพยายามขายจนเกินไป ควรสร้างฐานลูกค้าในระยะยาวจะทำให้ง่ายในอนาคตที่เราจะแนะนำหรือขายสินค้าได้
.
ในส่วนวิธีสร้างรายได้บนบล็อกนั้นสามารถทำได้หลากหลายวิธี เช่น Google Adsense ส่วนใหญ่โฆษณารูปแบบนี้มาจาก Google ใช้ระบบ pay-per-click นั่นคือเมื่อมีคนคลิกโฆษณาบนบล็อกหรือเว็บไซต์เรา ก็จะได้รับส่วนแบ่งค่าโษษณาจาก Google นอกจากโฆษณาของ Google แล้ว ยังมีเครือข่ายโฆษณาที่เราสามารถเลือกให้บริการโฆษณาในรูปแบบ Banner มาลงในบล็อกหรือเว็บไซต์เราได้ แต่การสร้างรายได้โดยอาศัยจากเครือข่ายโฆษณาเหล่านี้เว้บไซต์เราต้องมี Traffic ต่อเดือนในจำนวนมาก
4) ทำวิดีโอออนไลน์
ใช้ความคิดสร้างสรรค์ทำธุรกิจ
เราสามารถใช้ YouTube เพื่อหาเงินและสร้างธุรกิจออนไลน์ได้ รายได้หลักของการทำวิดิโอก็คือค่าโฆษณา และการสปอนเซอร์
.
หากคุณมีความสามารถในการถ่ายวีดีโอ และสามารถนำเสนอได้อย่างสร้างสรรค์ YouTube สามารถสร้างเป็นธุรกิจและสร้างรายได้ ส่วนรูปแบบการนำเสนอนั้นคล้ายกันกับการทำบล็อกคือเริ่มจากความชื่นชอบ นำเสนอจากตัวตนของเรา หลักการง่ายๆคือต้องต้องมีประโยชน์ สร้างสรรค์ก็เพียงพอซึ่งเทรนด์การดู Youtube ในตอนนี้ผู้ชม ก็ชอบดูคลิปที่เรียล เรียบง่ายเหมือนกัน โดยไม่จำเป็นต้องทำวิดีโอไวรัลเสมอไป แต่หากทำได้ยิ่งเป็นข้อได้เปรียบกว่า แต่เราสามารถสร้างกลยุทธ์เพื่อสร้างฐานคนดูในระยะยาว ที่ผู้ชมสนุกและสามารถติดต่อต่อได้ เราสามารถทำเงินได้จากค่าโฆษณา แต่ต้องมีคนดูคลิปเรามากพอสมควร Youtube จะนำโฆษณาต่างๆมาลงในคลิปของเรา
5) สินค้า Digital หรือคอร์สออนไลน์
สร้างธุรกิจออนไลน์ด้วยสินค้าให้ความรู้และข้อมูล
สินค้าประเภทนี้ไม่ต้องลงุนไม่มีอายุการใช้งานไม่ต้องสต็อกสินค้า เหมาะสำหรับการซื้อขายบนอินเทอร์เน็ต เช่น วีดีโอหรือเสียงคอร์สต่างๆ, รูปภาพ, E-Book
.
ธุรกิจนี้เป็นธุรกิจไอเดียที่ลงทุนน้อย และกำไรค่อนข้างสูง เคล็ดลับในการทำธุรกิจออนไลน์ลงทุนน้อยประเภทนี้อยู่ที่ตัวสินค้า ต้องคำนึงว่ามีประโยชน์ต่อผู้ซื้อในปัจจุบันเราจะเห็นว่าเร้นจ์สินค้าประเภทนี้มีหลายอย่างด้วยกัน ตั้งแต่คอร์สเรียนออนไลน์ไปจนถึงธุรกิจขายรูปถ่ายออนไลน์ เพียงแค่คุณมีทักษะและชำนาญพิเศษเฉพาะด้านก็สามารถทำธุรกิจนี้ได้เลยที่มา Priceza Insight
รับทำเว็บ
ที่มา.bizpromptinfo
Related Posts
